ความแตกต่างระหว่าง Perpetual และ Periodic คืออะไร
ความแตกต่างที่สำคัญระหว่างระบบสินค้าคงคลังแบบไม่ จำกัด ระยะเวลาและตามระยะเวลาอยู่ที่วิธีการติดตามและปรับปรุงสินค้าคงคลังในบันทึกทางบัญชี
ระบบสินค้าคงคลังถาวร:
- ในระบบสินค้าคงคลังแบบถาวร ระดับสินค้าคงคลังจะได้รับการอัปเดตอย่างต่อเนื่องทุกครั้งที่มีการซื้อหรือขาย
- แต่ละครั้งที่มีการซื้อหรือขายผลิตภัณฑ์ บัญชีสินค้าคงคลังจะถูกปรับทันทีเพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลง
- ระบบนี้ให้ข้อมูลแบบเรียลไทม์เกี่ยวกับระดับสินค้าคงคลัง และช่วยในการติดตามต้นทุนและการขายสินค้าคงคลังได้ดียิ่งขึ้น
ระบบสินค้าคงคลังเป็นระยะ:
- ในระบบสินค้าคงคลังตามระยะเวลา ระดับสินค้าคงคลังจะไม่ได้รับการอัปเดตอย่างต่อเนื่อง แต่จะมีการนับสินค้าคงคลังตามจริงเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาที่กำหนด เช่น รายเดือนหรือรายปี
- ต้นทุนของสินค้าที่ขายและสินค้าคงคลังสิ้นสุดจะถูกคำนวณเมื่อสิ้นสุดรอบระยะเวลาตามจำนวนทางกายภาพและการซื้อที่เกิดขึ้นในระหว่างงวด
- ระบบนี้ง่ายกว่าและมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าในการบำรุงรักษาเมื่อเทียบกับระบบถาวร แต่อาจไม่ให้ข้อมูลเรียลไทม์เกี่ยวกับระดับสินค้าคงคลัง
โดยสรุป ข้อแตกต่างที่สำคัญคือระบบสินค้าคงคลังแบบไม่ จำกัด ระยะเวลาจะอัปเดตระดับสินค้าคงคลังอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ระบบสินค้าคงคลังตามระยะเวลาจะอัปเดตระดับสินค้าคงคลังเป็นระยะ ๆ ผ่านการนับทางกายภาพ
วิธีสินค้าคงคลังถาวร
วิธีสินค้าคงคลังถาวรเป็นระบบที่ธุรกิจใช้เพื่อติดตามระดับสินค้าคงคลังแบบเรียลไทม์ ด้วยวิธีนี้ ทุกครั้งที่มีการซื้อหรือขายผลิตภัณฑ์ บันทึกสินค้าคงคลังจะได้รับการอัปเดตทันทีเพื่อสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลง ช่วยให้ธุรกิจต่างๆ มีมุมมองระดับสินค้าคงคลังที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบันได้ตลอดเวลา วิธีสินค้าคงคลังแบบไม่สิ้นสุดมักใช้ร่วมกับซอฟต์แวร์การจัดการสินค้าคงคลังเพื่อปรับปรุงกระบวนการและรับรองความถูกต้องแม่นยำ
วิธีสินค้าคงคลังเป็นระยะ
วิธีการสินค้าคงคลังตามระยะเวลาคือระบบบัญชีที่บริษัทจะอัปเดตบันทึกสินค้าคงคลังเป็นระยะๆ เท่านั้น แทนที่จะอัปเดตอย่างต่อเนื่อง ภายใต้วิธีนี้ ต้นทุนขายและสินค้าคงคลังสิ้นสุดจะถูกคำนวณเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาที่กำหนด เช่น รายเดือนหรือรายปี ซึ่งตรงกันข้ามกับวิธีสินค้าคงคลังแบบไม่ จำกัด ระยะเวลา โดยที่ระดับสินค้าคงคลังจะได้รับการอัปเดตอย่างต่อเนื่องตามธุรกรรมการขายและการซื้อแต่ละรายการ
เมื่อใช้วิธีการสินค้าคงคลังเป็นงวด ต้นทุนของสินค้าที่ขายจะถูกกำหนดโดยการนำสินค้าคงคลังเริ่มต้น เพิ่มการซื้อ แล้วลบสินค้าคงคลังที่สิ้นสุด การคำนวณนี้ช่วยให้ธุรกิจติดตามต้นทุนขายและมูลค่าสินค้าคงคลังคงเหลือเมื่อสิ้นสุดงวด