ความแตกต่างระหว่างระบบบัญชีสินค้าคงคลังแบบ Perpetual และ Periodic

ความแตกต่างระหว่างระบบบัญชีสินค้าคงคลัง​​

ความแตกต่างที่สำคัญระหว่างระบบสินค้าคงคลังถาวรและเป็นระยะๆ อยู่ที่วิธีการติดตามและอัปเดตสินค้าคงคลังในบันทึกบัญชี

วิธีแบบต่อเนื่อง:

  1. ในระบบคงคลังถาวร ระดับคงคลังจะได้รับการอัปเดตอย่างต่อเนื่องทุกครั้งที่มีการซื้อหรือขาย
  2. ทุกครั้งที่มีการซื้อหรือขายสินค้า บัญชีสินค้าคงคลังจะถูกปรับทันทีเพื่อสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงนั้น
  3. ระบบนี้ให้ข้อมูลแบบเรียลไทม์เกี่ยวกับระดับสินค้าคงคลังและช่วยให้ติดตามต้นทุนสินค้าคงคลังและยอดขายได้ดีขึ้น

วิธีแบบสิ้นงวด:

  1. ในระบบสินค้าคงคลังแบบเป็นระยะ ระดับสินค้าคงคลังจะไม่ได้รับการอัปเดตอย่างต่อเนื่อง แต่จะมีการนับสินค้าคงคลังจริงเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาที่กำหนด เช่น รายเดือนหรือรายปี
  2. ต้นทุนสินค้าที่ขายและสินค้าคงคลังสิ้นสุดจะคำนวณ ณ สิ้นงวดตามการตรวจนับสินค้าจริงและการซื้อที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้น
  3. ระบบนี้ง่ายกว่าและมีค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาน้อยกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับระบบถาวร แต่ก็อาจไม่สามารถให้ข้อมูลแบบเรียลไทม์เกี่ยวกับระดับสินค้าคงคลังได้

โดยสรุป, ความแตกต่างที่สำคัญคือระบบสินค้าคงคลังถาวรจะอัปเดตระดับสินค้าคงคลังอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ระบบสินค้าคงคลังแบบเป็นระยะจะอัปเดตระดับสินค้าคงคลังเป็นระยะๆ ผ่านการนับทางกายภาพ

 

a man and a woman in a warehouse

วิธีการจัดทำบัญชีสินค้าคงเหลือแบบต่อเนื่อง​

วิธีการจัดทำสินค้าคงคลังแบบต่อเนื่องเป็นระบบที่ธุรกิจต่างๆ ใช้เพื่อติดตามระดับสินค้าคงคลังแบบเรียลไทม์ โดยวิธีนี้ ทุกครั้งที่มีการซื้อหรือขายสินค้า บันทึกสินค้าคงคลังจะได้รับการอัปเดตทันทีเพื่อสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลง วิธีนี้ช่วยให้ธุรกิจต่างๆ สามารถดูระดับสินค้าคงคลังได้อย่างถูกต้องและอัปเดตตลอดเวลา วิธีการจัดทำสินค้าคงคลังแบบต่อเนื่องมักใช้ร่วมกับซอฟต์แวร์จัดการสินค้าคงคลังเพื่อปรับปรุงกระบวนการและรับรองความถูกต้อง

วิธีการจัดทำบัญชีสินค้าคงเหลือแบบสิ้นงวด​

วิธีการตรวจนับสินค้าคงคลังเป็นระยะเป็นระบบบัญชีที่บริษัทจะอัปเดตบันทึกสินค้าคงคลังเป็นระยะเท่านั้น แทนที่จะอัปเดตอย่างต่อเนื่อง โดยใช้วิธีการนี้ ต้นทุนสินค้าที่ขายและสินค้าคงคลังสิ้นสุดจะถูกคำนวณเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาที่กำหนด เช่น รายเดือนหรือรายปี ซึ่งแตกต่างจากวิธีการตรวจนับสินค้าคงคลังแบบต่อเนื่อง ซึ่งระดับสินค้าคงคลังจะได้รับการอัปเดตอย่างต่อเนื่องในการทำธุรกรรมการขายและการซื้อแต่ละครั้ง

เมื่อใช้การคำนวณสินค้าคงคลังเป็นระยะ ต้นทุนสินค้าที่ขายจะถูกกำหนดโดยการนำสินค้าคงคลังเริ่มต้นมาบวกกับยอดซื้อ จากนั้นจึงลบด้วยสินค้าคงคลังสิ้นสุด การคำนวณนี้ช่วยให้ธุรกิจสามารถติดตามต้นทุนสินค้าที่ขายและมูลค่าสินค้าคงคลังที่เหลืออยู่เมื่อสิ้นงวดได้

แชร์โพสต์นี้
แท็ก
เก็บถาวร
ลงชื่อเข้าใช้ ที่จะแสดงความคิดเห็น
โอเพ่นซอร์สคืออะไร?